การวิเคราะห์และจัดการความสัมพันธ์รอบตัว เพื่อชีวิตในแบบที่เราต้องการ

การวิเคราะห์และจัดการความสัมพันธ์รอบตัว เพื่อชีวิตในแบบที่เราต้องการ

ในทุกๆ ความสัมพันธ์จะต้องเคยประสบปัญหาในความสัมพันธ์ของตนเองเป็นครั้งคราว ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องเล็กหรือใหญ่ แต่เราก็สามารถเรียนรู้วิธีจัดการกับปัญหาความสัมพันธ์ได้ ด้วยวิธีการสื่อสารที่ดี ความเคารพซึ่งกันและกัน และการประนีประนอม

การเรียนรู้ที่จะพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาความสัมพันธ์โดยไม่ให้เกิดการทะเลาะกันและพยายามแก้ไขปัญหานั้นโดยไม่เลิกรากันนั้นถือเป็นเรื่องดี อย่างไรก็ตาม อาจมีบางครั้งที่ความขัดแย้งหรือปัญหาที่ไม่ได้รับการแก้ไข ฉะนั้นสิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจวิธีจัดการกับปัญหาความสัมพันธ์นั้น ว่ามีวิธีการอย่างไร

การจัดการความสัมพันธ์ คืออะไร

การจัดการความสัมพันธ์ เป็นการจัดการความขัดแย้งต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ในทุกความสัมพันธ์ ซึ่งวิธีที่คุณจัดการกับปัญหากับคู่ครองสามารถกำหนดได้ว่าความสัมพันธ์ของคุณจะดีหรือไม่ดี จะมั่งคงหรือไม่ และต่อไปนี้คือเคล็ดลับบางประการที่จะช่วยให้คุณจัดการกับการโต้เถียงครั้งต่อไปของคุณให้เป็นไปในทางที่ดี

12 วิธีการจัดการความสัมพันธ์ เพื่อให้ทุกอย่างดีขึ้น

การรู้จักวิธีการจัดการความสัมพันธ์ที่ถูกต้อง เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับคนอื่น ยั่งยืน และลึกซึ่งมากขึ้น มีดังนี้

1.พูดน้อยลงเพื่อฟังมากขึ้น

พูดน้อยลงเพื่อฟังมากขึ้น

  • ธรรมชาติแล้วคนส่วนใหญ่ชอบที่จะแบ่งปันความคิดและความรู้สึกของตนเอง และบางคนก็ดูเหมือนจะไม่สามารถหยุดพูดได้นานพอที่จะฟังคนอื่นได้
  • คุณลองทำสิ่งนี้เมื่อเกิดปัญหาครั้งต่อไป พยายามอย่าพูดมากเกินไป และเปลี่ยนมาเป็นการฟังให้มากขึ้น

2.ให้โอกาสอีกฝ่ายได้พูดอย่างเต็มที่

ให้โอกาสอีกฝ่ายได้พูดอย่างเต็มที่

  • เมื่อถึงคราวที่ต้องให้คนอื่นพูด ก็ต้องเปิดโอกาสให้พูดอย่างเต็มที่ ไม่ควรขัดคอ หรือว่าโต้แย้งใดๆ ขึ้นระหว่างที่พูด เพราะนั้นเท่ากับเป็นการสร้างความไม่พอใจให้กับอีกฝ่าย หรือเป็นการหักหน้ากัน ทำให้เกิดความอับอายได้

3.ถามคำถามบ้างในบางครั้ง

ถามคำถามบ้างในบางครั้ง

  • แสดงความสนใจในตัวอีกฝ่ายด้วยการถามคำถามปลายเปิดเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขากำลังพูด วิธีนี้จะช่วยให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าคุณสนใจพวกเขา และช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคุณและเขาให้แน่นแฟ้นขึ้น

4.สังเกตภาษากายของอีกฝ่าย

สังเกตภาษากายของอีกฝ่าย

  • การสังเกตภาษากาย จะทำให้คุณรับรู้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงว่าคนพูดรู้สึกอย่างไร เช่น รู้สึกอึดอัด รู้สึกเป็นกันเอง เบื่อ หรือต้องการพูดต่อ เพื่อที่คุณจะได้รู้วิธีการตอบโต้กับผู้พูด โดยไม่ให้กระทบกับความสัมพันธ์

5.แสดงให้อีกฝ่ายเห็นว่าคุณตั้งใจฟังและใส่ใจ

แสดงให้อีกฝ่ายเห็นว่าคุณตั้งใจฟังและใส่ใจ

  • การสบตากับอีกฝ่ายและตอบรับอย่างเหมาะสมด้วยการพยักหน้าและแสดงความคิดเห็นสั้นๆ เช่น “น่าสนใจนะ!” หรือ “ฉันเข้าใจที่คุณหมายถึง” หรือ “จริงเหรอ” อย่างเป็นมิตร รวมถึงอาการยิ้มในบางช่วง และสนับสนุนให้อีกฝ่ายพูดต่อไป จะทำให้คนพูดรู้สึกดีกับคุณยิ่งขึ้นไปอีก

6.ให้ข้อเสนอแนะ

ให้ข้อเสนอแนะ

  • แสดงให้เห็นว่าคุณเข้าใจโดยพูดว่าด้วยการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่กำลังพูด หรือถามคำถามที่แสดงให้เห็นว่าคุณติดตามสิ่งที่พวกเขาพูดมาตลอดและอยากรู้เพิ่มเติม

7.ไม่ต้องวิพากษ์วิจารณ์

ไม่ต้องวิพากษ์วิจารณ์

  • การไม่เห็นด้วยอย่างสุดโต่งอาจทำให้อีกฝ่ายต้องตั้งรับ ซึ่งอารมณ์ดังกล่าวอาจขัดขวางการสื่อสารที่ดี
  • แม้ว่าคุณอาจไม่เห็นด้วยได้ แต่ควรเคารพผู้อื่นเพื่อไม่ให้การสนทนาเกิดอารมณ์ขึ้น พูดว่า “ฉันไม่รู้ ฉันคิดว่าบางทีมันอาจจะ…” แทนที่จะพูดว่า “บ้าไปแล้ว! สิ่งที่เกิด ขึ้น จริงๆคือ…”

8.หลีกเลี่ยงการประชดประชันหรือเสียดสี

หลีกเลี่ยงการประชดประชันหรือเสียดสี

  • ถ้อยคำประชดประชันมักถูกเข้าใจผิดได้ง่าย และอาจตีความได้ว่าเป็นการโจมตีความคิดหรือคำพูดของบุคคลอื่น ซึ่งอาจทำให้ผู้ฟังรู้สึกโดนเหยียดหยามได้

9.เคารพความคิดเห็นของผู้อื่น

เคารพความคิดเห็นของผู้อื่น

  • ยอมรับว่าทุกคนไม่เหมือนกันและเรียนรู้ที่จะยอมรับความแตกต่างของตนเอง เพราะแต่ละคนย่อมมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันเป็นเรื่องธรรมดา การเคารพความคิดเห็นคนอื่น ถือเป็นการสานความสัมพันธ์ที่ดี

10.เปิดใจต่อความคิดผู้อื่น

เปิดใจต่อความคิดผู้อื่น

  • การเปิดใจยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น ถือเป็นการให้เกียรติและให้ความสำคัญกับอีกฝ่าย แม้ว่าบางคุณอาจไม่เห็นด้วยในบางความคิดเห็นก็ตาม แต่ก็ควรให้ความเคารพต่อความคิดเห็นเหล่านั้น

11.ใจเย็นๆ

ใจเย็นๆ

  • คุณไม่สามารถแก้ไขข้อขัดแย้งหรือปัญหาใดๆ ได้ในขณะที่คุณยังมีอารมณ์ที่รุนแรงอยู่ คุณควรตกลงกับอีกฝ่ายว่ารอจนกว่าคุณทั้งคู่จะรอพูดคุยกันเมื่ออารมณ์เย็นลง เพราะการพูดในขณะที่อารมณ์ร้อน มีแต่จะสร้างปัญหาให้มากรุนแรงกว่าเดิม

12.ระดมความคิดร่วมกัน

ระดมความคิดร่วมกัน

  • ทั้งสองฝ่ายต้องร่วมกันแสดงความคิดเห็นอย่างมีสติ ในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะการร่วมระดมความคิดกัน จะทำให้คุณและอีกฝ่าย ได้จุดลงตัวที่ทุกฝ่ายพอใจ เป็นสิ่งที่ควรทำทุกครั้งเมื่อเกิดปัญหาใดๆ ขึ้นในความสัมพันธ์ของคุณ

ลักษณะของความสัมพันธ์ที่ดี

คุณสามารถสังเกตได้ด้วยตัวเองว่า ความสัมพันธ์ของคุณในขณะนี้ เป็นความสัมพันธ์ที่ดีหรือไม่ ตามรายละเอียดด้านล่างนี้

  • มีความเคารพความเป็นส่วนตัวและให้พื้นที่ซึ่งกันและกัน โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา
  • คู่รักของคุณสนับสนุนให้คุณใช้เวลาอยู่กับเพื่อนโดยไม่มีเขา และทำกิจกรรมที่คุณชื่นชอบ
  • คุณรู้สึกสบายใจที่จะแสดงความคิดเห็นและข้อกังวลต่างๆ ของคุณกับคู่รักของคุณ
  • คุณรู้สึกปลอดภัยทางร่างกายและคู่รักของคุณไม่ได้บังคับให้คุณมีเซ็กส์หรือทำสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจ
  • คู่รักของคุณมีเวลาให้เสมอ

เคล็ดลับที่จะทำให้ความสัมพันธ์ดีขึ้น

ไม่มีความสัมพันธ์ใดที่จะสมบูรณ์แบบตลอดเวลา แต่ในทุกความสัมพันธ์ที่ดี ทั้งสองฝ่ายจะต้องรู้สึกดีเกี่ยวกับความสัมพันธ์นั้นอยู่เสมอ

ความสัมพันธ์ที่ดีต้องอาศัยมากกว่าแค่ความดึงดูดทางใจเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยความพยายาม และทั้งสองฝ่ายต้องเต็มใจที่จะทุ่มเทความพยายามในการสร้างความสัมพันธ์ นี่คือเคล็ดลับบางที่จะทำให้ความสัมพันธ์ของคุณดีขึ้น ได้แก่

1.รักตัวเอง

  • การรู้สึกสบายใจและรู้จักรักตัวเองจะทำให้คุณเป็นคู่ครองที่มีความสุขมากขึ้น และทำให้ความสัมพันธ์ของคุณมีความสุขตามไปด้วย

2.พูดคุยกับคู่รักของคุณเกี่ยวกับความรู้สึกของคุณเอง

  • ถามคำถามและรับฟังคำตอบของอีกฝ่าย หากคุณรู้สึกไม่สบายใจ จงบอกเขาไป อย่าให้อีกฝ่ายต้องพยายามหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้น
  • การพูดคุยถึงปัญหาต่างๆ จะช่วยสร้างความไว้วางใจและทำให้ความสัมพันธ์ของคุณมั่นคงขึ้น

3.ซื่อสัตย์ต่อกัน

  • พูดความจริงต่อกันเกี่ยวกับสิ่งที่คุณทำ ความคิด และความรู้สึก ความซื่อสัตย์จะสร้างความไว้วางใจ

4.ให้เวลาซึ่งกันและกันบ้าง

  • เวลาของคู่รักเป็นสิ่งที่ดี แต่การใช้เวลาร่วมกันทั้งหมดนั้นไม่ดี การมีเพื่อนและมีความสนใจในงานอดิเรกที่ชอบนอกเหนือจากความสัมพันธ์นั้น ส่งผลดีต่อสุขภาพและจิตใจ

5.ยอมรับที่จะไม่เห็นด้วย

  • คุณอาจจะไม่เห็นด้วยเสมอไปก็ได้ และนั่นก็เป็นเรื่องปกติ สิ่งสำคัญคือต้องเคารพความเห็นในแนวคิดของกันและกัน

6.ให้อภัยและขอการให้อภัย

  • ทุกคนล้วนทำผิดพลาดได้ จงเต็มใจที่จะขอโทษในสิ่งที่ทำไป และยอมรับคำขอโทษของคู่ของคุณ

7.สนับสนุนซึ่งกันและกัน

  • เมื่อคู่ของคุณทำสิ่งที่ดี จงชื่นชมเขาอย่างจริงใจ และเมื่อเขาต้องการทำอะไร ก็ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว

8.พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องเซ็กส์อย่างเปิดเผย

  • การบอกคู่ของคุณว่าอะไรทำให้คุณรู้สึกดี อะไรที่คุณชอบและไม่ชอบ จะช่วยให้คุณมีเพศสัมพันธ์ได้ดีขึ้น อย่ากดดันคู่ของคุณให้ทำในสิ่งที่เขาไม่อยากทำ หรือปล่อยให้คู่ของคุณกดดันคุณ เพราะคุณต้องยินยอม

สรุปท้ายบท

การรักษาความสัมพันธ์ให้ดีนั้นต้องใช้ความพยายามอย่างมาก และการพูดคุยกับคู่รักของคุณเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่คุณคิดว่าสามารถทำให้ดีขึ้นได้ การพยายามชี้แจงให้ชัดเจนว่าสิ่งใดที่ทำให้คุณกังวล รู้สึกไม่ดี และการให้เกียรติซึ่งกันและกัน รวมถึงการสื่อสารที่ดี ถือเป็นส่วนสำคัญในการแก้ปัญหาความสัมพันธ์ทุกรูปแบบ

สำหรับท่านใดที่มีปัญหาในการจัดการกับความสัมพันธ์ด้วยตัวเอง คุณอาจลองขอความช่วยเหลือจากคนอื่นที่อยู่นอกความสัมพันธ์ของคุณก็ได้ บางครั้งการพูดคุยกับที่ปรึกษาหรือนักบำบัดอาจช่วยให้คู่รักแก้ไขปัญหาและปรับปรุงความสัมพันธ์ของตัวเองได้ดีขึ้น

สุดท้ายแล้ว คุณไม่ควรรอจนกว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้นแล้วจึงเริ่มลงมือทำ คุณควรเริ่มลงมือเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ตอนนี้ ในความสัมพันธ์ที่ดีนั้น มีสิ่งต่างๆ ให้ได้เรียนรู้และมีโอกาสเติบโตอีกมากมาย การพยายามอย่างจริงจังในการสร้างความสัมพันธ์จะทำให้เกิดประโยชน์ต่อทั้งตัวคุณและคนที่คุณรัก ที่สำคัญจะทำให้ความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่ ยาวนานและมั่นคงด้วย