การจัดการกับความล้มเหลว: เรียนรู้จากความผิดพลาดและก้าวต่อไปด้วยทัศนคติที่เข้มแข็ง

เรียนรู้จากความผิดพลาดและก้าวต่อไป

ชีวิตของเราทุกคนก็ต้องมีบ้างบางครั้ง ที่เจอกับความล้มเหลวในชีวิต การเรียนรู้ทักษะในการรับมือกับความล้มเหลวที่ท้าทายเหล่านี้จึงเป็นเรื่องสำคัญ แม้ว่าความล้มเหลวจะเป็นประสบการณ์เชิงลบ แต่ก็อาจเป็นโอกาสเชิงบวกได้เช่นกัน ฉะนั้นเราจะมาดูวิธีการจัดการกับความล้มเหลว เพื่อจะได้เตรียมรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันในอนาคต

การจัดการกับความล้มเหลว คืออะไร?

การจัดการกับความล้มเหลว เป็นการรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด ไม่สมหวัง และไม่เป็นไปตามแผนที่ได้วางเอาไว้ ให้ผ่านพ้นไปด้วยดี

ความล้มเหลว เป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิต ที่เราทุกคนอาจจะต้องพบเจอบ้างบางครั้ง ดังนั้นการรู้จักวิธีการจัดการกับความล้มเหลว จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนควรรู้เอาไว้ เพื่อจะได้นำมาใช้จริงเวลาที่เราต้องเจอกับสถานการณ์เหล่านี้

ทำไมต้องจัดการกับความล้มเหลว?

เหตุผลที่เราต้องจัดการกับความล้มเหลวนั้น เพื่อเป็นการป้องกันอารมณ์เชิงลบ เช่น ความโกรธ ความอับอาย หรือความวิตกกังวล ไม่ให้ส่งผลระยะยาวต่อตัวคุณเองและผู้อื่น

  • อารมณ์เหล่านี้อาจส่งผลต่อความสัมพันธ์และการตัดสินใจ
  • เมื่อประสบกับความล้มเหลว พยายามเปลี่ยนมุมมองของคุณใหม่ นอกจากจะเป็นการหลีกเลี่ยงความผิดพลาดในอนาคต แต่ยังทำให้คุณตระหนักรู้ด้วยว่า ถึงแม้ความล้มเหลวจะเกิดขึ้น แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้กำหนดคุณ ว่าคุณจะล้มเหลวตลอดไป
  • การใช้เวลาทำความเข้าใจและยอมรับความล้มเหลวที่เกิดขึ้น ควบคู่ไปกับการปรับอารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น จะทำให้คุณสามารถประมวลผลความรู้สึกเหล่านั้นได้ และสามารถเอาชนะมันได้ในที่สุด

ทำไมความล้มเหลวถึงเจ็บปวด

เราทุกคนต่างคุ้นเคยกับอารมณ์ต่างๆ มากมายที่ปรากฏขึ้นเมื่อเราล้มเหลว คุณอาจรู้สึก โกรธ อับอาย หรือสิ้นหวัง

  • อาการซึมเศร้าและวิตกกังวลที่ในตัวคุณ สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อคุณใช้คำพูดเชิงลบในการตำหนิตัวเองเกี่ยวกับความล้มเหลว
  • คุณอาจรู้สึกหมดหนทางและสิ้นหวัง โดยคิดว่าคุณจะไม่ประสบความสำเร็จได้แน่นอน ในสิ่งที่คุณพยายามทำให้สำเร็จ ความรู้สึกเหล่านี้มักจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากความล้มเหลวมาถึงจุดสิ้นสุดของความพยายามอันยาวนานและยากลำบาก แต่นี่ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ใครก็พบเจอได้ แม้คุณผิดหวังและมันก็ไม่เป็นไร….
  • แต่คุณต้องจำไว้ว่า ความรู้สึกเหล่านี้เกิดขึ้นชั่วคราวและสามารถใช้เป็นแรงจูงใจในการลองอีกครั้ง ความล้มเหลวเพียงครั้งเดียว ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่มีค่าและไม่สามารถประสบความสำเร็จได้

สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อคุณล้มเหลว

หลายคนติดนิสัยการรับมือต่อความล้มเหลวที่ไม่ดี ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นวิธีที่ทำให้ชีวิตแย่ยิ่งกว่าเดิม ฉะนั้นแนะนำว่า เมื่อต้องพบเจอกับความล้มเหลว ให้หลีกเลี่ยงการทำพฤติกรรมเหล่านี้จะดีที่สุด

เมื่อต้องรับมือกับความล้มเหลว ระวังอย่า….

  • รักษาตัวเองด้วยยาหรือแอลกอฮอล์เพื่อลดความเจ็บปวด เพราะสิ่งเหล่านี้ปกปิดอารมณ์ได้เพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้นและสุดท้ายมันก็จะนำคุณไปสู่ปัญหาที่ใหญ่กว่า
  • จมอยู่กับความรู้สึกด้านลบเป็นเวลานานเกินไป การมุ่งความสนใจไปที่ด้านลบอยู่ตลอดเวลา จะทำให้อารมณ์ด้านบวกไม่สามารถเข้ามาในชีวิตของคุณได้
  • โทษคนอื่นทุกอย่าง และอย่าโทษตัวเองทั้งหมด ให้คุณมองสิ่งต่าง ๆ ตามความเป็นจริงและรู้ว่าสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถควรคุมได้ หรือยังไม่เข้าใจมันได้ดีพอ
  • ห้ามยอมแพ้เด็ดขาด เหมือนสุภาษิตที่ว่า “ตกม้าต้องลุกขึ้นมาลองใหม่”

11 วิธีจัดการกับความล้มเหลว

ตอนนี้คุณรู้แล้วว่าสิ่งใดที่คุณควรหลีกเลี่ยงการทำเมื่อคุณเผชิญกับความล้มเหลว คราวนี้ก็มาดูแนวทางในการจัดการความล้มเหลวกันบ้าง มีด้วยกันทั้งหมด 11 ข้อดังนี้คือ

1. พัฒนากรอบความคิดแบบพัฒนาได้

เมื่อคุณรู้สึกว่าความล้มเหลวเป็นจุดสิ้นสุดและคุณจะไม่มีวันประสบความสำเร็จ เพราะคุณกำลังแสดงกรอบความคิดที่ตายตัว และนี่ก็เป็นเหตุผลสำคัญที่สุดที่ทำให้หลายคนต้องย่ำอยู่กับที่ ไม่ประสบความสำเร็จ

  • สิ่งสำคัญคือต้องมุ่งมั่นที่จะพัฒนากรอบความคิดแบบพัฒนาได้
  • ซึ่งหมายความว่าคุณต้องมองความล้มเหลวเป็นเพียงขั้นตอนเดียวในกระบวนการทั้งหมด มองว่าเป็นโอกาสที่จะถอยกลับและคิดใหม่เกี่ยวกับแนวทางของคุณ เพื่อให้คุณสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น

2. เรียนรู้จากความล้มเหลวจากคนดัง

เรื่องราวความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดหลายเรื่องเกิดขึ้นหลังจากความล้มเหลวมาหลายครั้ง

  • ประเด็นสำคัญก็คือคนดังหลายๆ คนเหล่านี้ไม่ยอมให้ความล้มเหลวมาหยุดยั้งพวกเขาจากการทำตามความฝันที่ฝันเอาไว้
  • สิ่งที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งที่คุณสามารถทำได้เมื่อคุณรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอก็คือ การใช้เวลาศึกษาหรือดูประวัติชีวิตของคนเหล่านี้ที่ไม่ยอมให้คนใดคนหนึ่งหรือหลายสิบคน (หรือมากกว่า) มาขัดขวางความฝันของเขา

3. มองความล้มเหลวให้เป็นบทเรียน

แทนที่จะมุ่งความสนใจไปที่ความล้มเหลว ให้มองว่าเป็นการหาวิธีหนึ่งที่ไม่ได้ผล

  • ให้คุณค้นหาว่าเหตุใดจึงไม่ได้ผลและใช้ความรู้นั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการทำผิดพลาดแบบเดียวกัน
  • การเรียนรู้จากความล้มเหลวเป็นวิธีหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการบรรลุความสำเร็จในที่สุด
  • เมื่อคุณกำจัดวิธีที่ไม่ได้ผลทั้งหมดออกไป มันก็จะเหลือเพียงวิธีหรือวิธีที่จะใช้ได้ผลเท่านั้น

4. ยอมรับความรับผิดชอบ

คุณต้องยอมรับความล้มเหลวที่เกิดขึ้น ตระหนักถึงข้อผิดพลาดที่คุณอาจทำและสิ่งที่คุณสามารถทำแตกต่างออกไปได้… แต่อย่าจมอยู่กับสิ่งเหล่านั้นนานเกินไป

  • ให้ใช้ความรู้ที่คุณมีทั้งหมดนั้นคุณลองทำมันอีกครั้ง ความสำเร็จจะเกิดขึ้นไม่ได้หากปราศจากการกระทำจากคุณ และคุณต้องตระหนักรู้ในสิ่งนั้น

5. นึกถึงความล้มเหลวและความสำเร็จในอดีต

ทุกคนคุณล้มเหลวและประสบความสำเร็จตั้งแต่เกิดมา ลองนึกย้อนกลับไปตอนที่คุณกำลังหัดเดิน

  • เด็กทารกก็มีสิ่งที่ล้มเหลวเช่นกัน นั่นก็คือการล้มครั้งแล้วครั้งเล่า ในการหัดยืน หัดเดิน จนสุดท้ายก็สามารถยืน และเดินได้ ฉะนั้นคุณก็ต้องต้องลุกขึ้นมาแล้วลองก้าวต่อไปดูสิ
  • เพราะฉะนั้นคุณก็ควรทำเช่นเดียวกันกับตอนที่คุณหัดยืน หัดเดิน
  • มองย้อนกลับไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คุณอาจจะมองว่าคุณพ่ายแพ้มาแล้วมากมาย แต่ให้รู้ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่จุดจบของคุณ
  • ความล้มเหลวครั้งหนึ่งไม่ได้ทำให้คุณล้มเหลวตลอดไป คุณยังคงสามารถประสบความสำเร็จได้ เตือนตัวเองบ่อยๆ และหาเวลาให้กำลังใจตัวเองเหมือนกับที่คุณให้กำลังใจคนที่คุณรัก

6. อย่าทำให้มันเป็นเรื่องส่วนตัว

การทำให้แต่ละความล้มเหลวเป็นเรื่องส่วนตัวถือเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ คุณไม่ใช่คนล้มเหลว คนทุกคนประกอบด้วยแง่มุมต่างๆ หลายร้อยแง่มุม และไม่สามารถกำหนดได้ด้วยการกระทำเพียงครั้งเดียว

  • ตระหนักว่าความล้มเหลวครั้งหนึ่ง ไม่ได้กำหนดคุณ วางมันไว้ในอดีตแล้วก้าวไปข้างหน้า มีอะไรอีกมากมายในตัวคุณและสิ่งที่คุณสามารถทำให้สำเร็จได้

7. มองความล้มเหลวจากมุมมองที่แตกต่าง

เมื่อคุณเผชิญกับความล้มเหลว ถึงเวลาที่เหมาะสมที่จะเริ่มปรับกรอบความคิดของคุณใหม่

  • ทุกครั้งที่คุณพบว่าตัวเองกำลังพูดถึงตัวเองในแง่ลบ ให้หายใจลึกๆ และปรับกรอบความคิดใหม่ เช่น แทนที่จะพูดว่า “ฉันล้มเหลว” ให้บอกตัวเองว่า “นั่นล้มเหลว”
  • คุณยังสามารถเปลี่ยนความคิดที่ว่า “วิธีนี้ใช้ไม่ได้ผล” ให้เป็น “วิธีการนั้นใช้ไม่ได้ผล แต่บางทีวิธีนี้อาจใช้ได้ผล!”
  • ในตอนแรก การปรับกรอบความคิดของคุณใหม่ต้องใช้เวลาบ้าง อย่างไรก็ตาม ยิ่งคุณฝึกฝนมากเท่าไร มันก็จะง่ายขึ้นเท่านั้น เพราะสมองของคุณจะเริ่มสร้างเส้นทางประสาทที่แตกต่างกัน

8. รับรู้อารมณ์ของคุณ

เหตุการณ์ต่างๆ ไม่ใช่เรื่องดีหรือไม่ดี อารมณ์ของคุณก็เช่นเดียวกัน แม้ว่าเราจะกำหนดลักษณะเชิงบวกหรือเชิงลบให้กับอารมณ์ แต่จริงๆ แล้วอารมณ์เหล่านั้นเป็นกลาง

  • สิ่งสำคัญคือคุณจะตอบสนองต่ออารมณ์ความรู้สึกของแต่ละอารมณ์อย่างไร การเพิกเฉยต่อสิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดปัญหาตาม
  • เมื่อคุณปฏิเสธอารมณ์ที่เกิดขึ้น อารมณ์นั้นจะผลักดันตัวเองให้อยู่แถวหน้าอยู่เสมอ เพราะมันต้องการที่จะได้รับการยอมรับและเข้าจัดการชีวิตคุณ เพื่อที่จะช่วยให้คุณสามารถปลดปล่อยพลังงานที่สามารถนำไปใช้ในการดำเนินการได้
  • นี่คือเหตุผลเราทุกคนควรฝึกสติ หรือมีสติ เพราะการมีสติจะช่วยให้คุณสังเกตอารมณ์ รับรู้ และปล่อยให้มันดำเนินต่อไปโดยไม่ต้องตัดสิน เมื่อคุณรับรู้ได้ว่าคุณกำลังรู้สึกอย่างไร คุณสามารถถามตัวเองได้ว่าสิ่งนี้มีจุดประสงค์อะไร จากนั้นจึงปล่อยให้มันผ่านไป ก็จะเป็นการลดความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นใหม่ด้วย

9. หยุดกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่คนอื่นคิด

สาเหตุสำคัญที่สุดประการหนึ่งที่เรากลัวความล้มเหลวก็คือ เราใช้เวลามากเกินไปกังวลว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับเรา ความจริงก็คือพวกเขาส่วนใหญ่ไม่ได้คิดถึงความผิดพลาดของคุณเลย

  • ทุกคนมีความกังวลเป็นของตัวเอง และแม้ว่าพวกเขาจะสังเกตเห็นความผิดพลาดของคุณในขณะนี้ แต่ในไม่ช้าพวกเขาก็จะกลับไปสนใจสิ่งที่อยู่ในใจของตนเองอยู่ดี

10. สร้างแผนปฏิบัติการ

ให้คุณจดบันทึกการตัดสินใจแต่ละครั้งที่คุณทำระหว่างทาง และพิจารณาว่าการตัดสินใจใดได้ผล และการตัดสินใจใดอาจแตกต่างออกไป

  • ถามตัวเองว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากคุณตัดสินใจอย่างอื่น และคุณมีการตัดสินใจอะไรอีกบ้าง จดบันทึกสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดและสร้างแผนปฏิบัติการใหม่ โดยตอนนี้เป็นจุดเริ่มต้นใหม่และเป้าหมายของคุณคือจุดสิ้นสุด
  • คุณอาจต้องการหาวิชันบอร์ดสักอันหนึ่ง เพื่อทำให้แผนของคุณเป็นจริง สร้างแผนงานใหม่สำหรับเส้นทางของคุณ จากนั้นเริ่มต้นที่จะเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์โดยการตัดสินใจตามข้อมูลที่คุณรวบรวมจากการประเมินของคุณทั้งหมด

11. มองตัวเองให้ลึกซึ้ง

ไปหยิบสมุดบันทึกของคุณมา

  • เอาล่ะ… ถึงเวลาที่จะต้องมองให้ลึกลงไปว่าคุณเป็นใคร และคุณเชื่อว่าความสำเร็จจะเป็นอย่างไร มองย้อนกลับไปในชีวิตของคุณและความล้มเหลวครั้งใหญ่ที่คุณเคยประสบมา

สรุปท้ายบท

  • ความล้มเหลวเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เป็นครั้งคราว แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่ประสบความสำเร็จ
  • การพัฒนาความยืดหยุ่นในเรื่องของแผนการ จะช่วยให้คุณสามารถเผชิญกับความล้มเหลวและมองว่ามันเป็นโอกาสในการเรียนรู้และเติบโต
  • ชีวิตไม่ได้คาดหวังให้เราเป็นหรือสมบูรณ์แบบด้วยซ้ำ สิ่งที่ขอจากเราก็คือการยอมรับความจริงที่ว่าทุกสิ่งที่เป็นบวก ก็ต้องมีสิ่งที่เป็นลบเสมอ เช่น ความสำเร็จ จะต้องมีสิ่งคู่กันก็คือความล้มเหลว เพราะฉะนั้นเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดา
  • เมื่อคุณสามารถเอาชนะความเจ็บปวดจากความล้มเหลวได้ คุณก็จะชื่นชมความสำเร็จได้อย่างเต็มที่
  • คุณจะประสบความสำเร็จได้หากคุณเดินหน้าต่อไปและไม่ยอมแพ้! ท้ายที่สุดแล้วความมานะอุตสาหะคือหนึ่งในคุณสมบัติพื้นฐานที่ดีที่สุดในการต่อสู้ในทุกๆ เรื่อง